คุณโชคชัย พุฒตาล ชื่อเล่นชื่อ โชค อายุ 32 ปี
Q1: ประวัตินักเรียน
คุณโชคชัย พุฒตาล ชื่อเล่นชื่อ โชค อายุ 32 ปี
เรียนที่ Yokohama YMCA หลักสูตรภาษาญี่ปุ่นระยะยาว 1 ปี
เทอมตุลาคม ปี 2017
เหตุผลที่เลือกโรงเรียนนี้ เพราะมีชั่วโมงเรียนเยอะสุด และ ณ ตอนนั้นอยากจะสอบได้ N1 มาก จึงเลือกโรงเรียนนี้ ซึ่งปกติโรงเรียนทั่วไปจะเรียนครึ่งวัน แต่ที่นี้เรียนกันทั้งวัน โดยจะเรียนกันถึงประมาณบ่ายสามโมง เหมือนเรียนที่วาเซดะประเทศไทยเลยครับ
Q2: การเตรียมความพร้อมเรียนภาษาญี่ปุ่นก่อนไปเรียนและจุดประสงค์ในการไปเรียน
ก่อนหน้านี้เรียนภาษาญี่ปุ่นครั้งแรกที่วาเซดะครับ ซึ่งก่อนหน้าที่จะเรียนภาษาญี่ปุ่น ถ้าเกิดว่าเราไปดู Content ภาษาญี่ปุ่นจริง ๆ เช่น ดูหนัง อนิเมะ ฟังเพลง เราก็ยังพอเข้าใจเพียงนิด ๆ หน่อย ๆ ครับ
จุดประสงค์ในการไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น คือ อยากสอบผ่าน N1 ถึงแม้ตอนนั้นจะมี N2 แล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าการฟังและการพูดยังไม่ค่อยได้เท่าที่ควร จึงวางแผนที่จะไปเรียนต่อประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งการวัดระดับความรู้ทางภาษาญี่ปุ่น (JLPT) เป็นมาตรฐานในการวัดความรู้ความสามารถทางด้านภาษาญี่ปุ่นของผม
Q3: ความคาดหวังจากการไปเรียนที่ญี่ปุ่น
ความคาดหวังในการเรียนที่ญี่ปุ่น คือ การเรียนเพื่อให้ได้ N1 เดิมทีผมคิดว่า ผมเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ไม่ได้คาดหวังจะเอามาใช้ในการทำงาน เพราะงานที่ทำอยู่ก็ Happy อยู่แล้ว งานอดิเรกเราชอบเล่นเกม ดูอนิเมะ แต่พอเราได้ภาษาญี่ปุ่น ผมก็รู้สึกว่าโลกมันเปลี่ยนไปจริง ๆ หลังจากสอบได้ระดับ N1 ก็มีเมลมาจากบริษัทญี่ปุ่นส่งมาชวนไปทำงานด้วย เพราะผมได้ N1 ซึ่งตอนนั้นผมก็ทำงานเกี่ยวกับ IT อยู่ด้วย
Q4: เมื่อไปถึงสิ่งที่คาดหวังกับความเป็นจริงเหมือนกันไหม?
สิ่งที่เจอที่ Yokohama YMCA ก็ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับที่คาดหวังไว้ ที่ Yokohama YMCA เนื่องจากเวลาเรียนค่อนข้างเยอะ ส่วนตัวแล้วก็ถือว่าค่อนข้างเข้มข้น ในส่วนเมืองที่ไปอยู่ ก่อนไปก็หาข้อมูลไว้เพียงแค่ว่า Yokohama มันอยู่ใกล้โตเกียว เลยคิดว่าแถวนั้นน่าจะโอเค ซึ่งก็ดีครับ ผมค่อนข้างชอบด้วย และอีกเหตุผลที่ไปก็เพราะ Yokohama มันติดทะเลและพวกสถานที่ท่องเที่ยวก็อยู่ที่ Yokohama เยอะครับ
Q5: ความรู้สึกระหว่างที่เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไรบ้าง?
ความรู้สึกระหว่างเรียนของผม คือ ไม่เสียดายเวลาเลยครับ แต่ที่นั่นอาจจะไม่ได้มีการเรียนการสอนที่เข้มข้นเท่ากับการเรียนที่วาเซดะ ผมรู้สึกว่าบรรยากาศการเรียนก็ไม่ได้แย่นะครับ คนที่ตั้งใจเรียนก็มีอยู่เยอะ เช่น เพื่อนชาวเวียดนาม แต่มันก็จะมีคนที่ไม่ตั้งใจเรียนด้วย บางคนอาจจะทำงานพิเศษเยอะ ก็เลยดูเหนื่อย ๆ
พอเราไปถึง บรรยากาศการเรียนในช่วงแรก ๆ ก็เครียดนิดหน่อย เพราะเราเป็นคนไทย ซึ่งที่นั่น คนไทยมีจำนวนน้อยมาก ในห้องผมก็มีเพื่อนคนไทยอยู่อีกคนหนึ่ง แต่ว่าตอนครึ่งปีหลัง เขาก็ออกไป
ตอนไปเรียน เรารู้สึกว่า มันเป็นช่วงปรับตัว เลยไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าอยากจะเรียนเพิ่มขึ้นหรือน้อยลง แค่รู้สึกว่า “มันเป็นอย่างนี้นี่เอง” แต่ที่นั่นมันไม่เหมือนที่วาเซดะประเทศไทย ที่มีการบ้านให้เราได้ทบทวนตลอดและมีเพื่อนในห้องที่คอยผลักดันกันไป
ตอนไปที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็แค่ทำตามหลักสูตรเขาและเขาก็ไม่ได้มากดดันอะไรมากนัก แต่เราไปช่วงแรก ๆ ก็ค่อนข้างจะเหนื่อยและหนัก เพราะโรงเรียนนี้มีคนที่ใช้อักษรจีนอย่าง ฮ่องกง ไต้หวันเยอะ ฉะนั้นคนพวกนี้จะเก่งมาก เขาจะเรียนภาษาญี่ปุ่นเหมือนเรียนเล่น ๆ แต่ผลปรากฏว่ารู้เรื่องหมดเลย เรารู้สึกว่าเราสู้ไม่ได้ เคยมีครั้งหนึ่ง อาจารย์ถามว่าใครไม่รู้เรื่องบ้างและผมยกมือคนเดียว ทั้งห้องก็หันมามองและอาจารย์ก็รู้สึกผิดว่าทำไมสอนคนนี้ไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว เพราะเราจำไม่ไหว พูดกันตามตรงคือ เขาได้เปรียบ เพราะเหมือนเขารู้ตัวอักษรอยู่แล้ว
Q6: ประสบการณ์ที่ได้รับจากการอยู่ญี่ปุ่น
ประสบการณ์ที่หาที่อื่นไม่ได้ คือ ตอนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ผมพยายามไม่คุยกับคนไทยเลย นอกจากนี้ยังได้รับประสบการณ์ อย่างเช่น ผมต้องคอยติดต่อทางโทรศัพท์กับคนญี่ปุ่น พอเขารู้ว่าเราเป็นคนต่างชาติ เขาก็เข้าใจและรู้ว่าเราก็ไม่ได้พูดภาษาญี่ปุ่นเก่งขนาดนั้น
ตอนนั้นผมก็ได้ N2 แล้ว แต่อยู่ที่ไทย ไม่ค่อยได้ใช้ภาษาญี่ปุ่น บางทีก็มีเรื่องประสบการณ์การโดนด่าเยอะ เพราะว่าเราทำเองหมดเลย ที่นั่นเราพยายามไม่คุยกับคนไทย เพราะเราจะได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นน้อย เราก็ไปตามสถานที่ ใช้บริการ ดูหนัง ขึ้นรถไฟ ไปเที่ยว
ข้อดีของ Yokohama YMCA คือ เขาจะจัดพาร์ทเนอร์ให้ เราก็บอกเขาไปว่า เราอยากจะได้คนคุยด้วย เขาก็จะไปหา Volunteer มาให้ เป็นผู้หญิงสูงอายุที่ใจดีมาก เขาก็จะมาคุยด้วยทุกอาทิตย์ เลยได้ใช้ภาษาญี่ปุ่น คิดว่าได้เยอะกว่าปกติ เพราะโอกาสที่เราจะไปหาคนญี่ปุ่นคุยด้วยนั้นค่อนข้างน้อยมาก เพราะคนญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยว่างมาคุยกับเรา คุยกันจนสนิทกันและทำให้เราได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่น
ส่วนตัวผมจะไม่ค่อยมีประสบการณ์ด้านการหางาน เพราะว่าผมเรียนไปเพื่อเล่นเกม ดูอนิเมะ ผมเลยไม่ได้หางานที่ญี่ปุ่นเลย แต่ผมเชื่อว่าถ้าได้ JLPT เลเวลสูง ๆ งานมันจะเข้ามาเอง
Q7: ปัจจุบันประกอบอาชีพอะไร / ทำงานด้านไหน
หลังเรียนจบ กลับมาไทยแล้วก็ประกอบอาชีพส่วนตัว ทำธุรกิจ E-commerce ครับ
Q8: ผลลัพธ์จากการไปเรียนที่ญี่ปุ่น
ผลลัพธ์จากการไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น คือ กลับมาสอบ N1 ผ่านที่ไทย ตอนสอบที่ญี่ปุ่นไม่ผ่าน แต่ว่าการไปญี่ปุ่นทำให้คะแนนการฟังของผมสูงมาก เพราะผมใช้ภาษาญี่ปุ่นอยู่ตลอด ซึ่งคลาสครึ่งปีหลังเป็นคลาสพิเศษที่มีแค่ 5 คน ผมเลยได้อยู่กันแค่คนจีน คนไทย คนเกาหลีและคนเวียดนาม เลยทำให้ผมได้สกิลการฟังที่สูงมาก ยอมรับเลยว่าฟังรู้เรื่องขึ้น เลยได้คะแนนการฟังสูงครับ
Q9: มีอะไรอยากฝากถึงรุ่นน้อง
ถ้าคุณไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น แนะนำว่าควรเรียนที่วาเซดะประเทศไทยให้จบก่อน เพราะที่นี่สอนดีมาก แต่ถ้าคุณไปญี่ปุ่นตั้งแต่ตอนคุณยังไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก ก็จะต้องตั้งใจมาก ๆ เพราะมันยากจริง ๆ คุณต้องมาปรับตัว ทั้งการใช้ชีวิต ต้องอยู่กับความรู้สึกว่าไกลบ้าน มันก็ต้องมีเหงาบ้าง
อย่างน้อยคุณต้องมีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นระดับหนึ่งก่อนแล้วค่อยไป ถ้าอยากเรียนภาษาญี่ปุ่น แนะนำให้ตั้งใจเรียนที่วาเซดะ ให้จบสูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้และถ้าเรียนจบแล้ว ผมบอกเลยว่าวาเซดะคือดีที่สุดแล้ว ถ้าผมไม่ได้วาเซดะผมก็ยังไม่รู้เรื่องภาษาญี่ปุ่นครับ
🎉สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โรงเรียนภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่นวาเซดะ
Waseda กรุงเทพ 02-670-3456 / 080-269-0678
Waseda ศรีราชา 038-338-999 / 083-338-999
Waseda เชียงใหม่ 053-211-888 / 095-243-4248
Line: https://lin.ee/ijDtsVM @waseda2japan (มี @ ด้วยนะครับ)
#โอกาสมาแล้ว รีบคว้าไว้กันนะครับ