เรียนรู้ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นและวิธีการอ่านออกเสียงทั้ง 3 แบบกับวาเซดะ

การเรียนภาษาญี่ปุ่นที่วาเซดะ

เราจะเน้นทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน โดยการเรียนตัวอักษรญี่ปุ่นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราอ่านและเขียนภาษาญี่ปุ่นได้ดี โดยตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ที่ใช้กันในปัจจุบันมี 3 แบบ ได้แก่  ฮิรางานะ Hiragana I คาตาคานะ Katakana และ คันจิ Kanji ซึ่งใน 1 ประโยคก็มีการใช้ตัวอักษรทั้ง 3 แบบร่วมกัน ผู้ที่เรียนภาษาญี่ปุ่นเริ่มต้น จึงจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องฝึกเขียนและอ่านออกเสียงตัวอักษรทั้ง 3 แบบ โดยวาเซดะจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก ตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ทั้ง 3 แบบนี้กัน 

นอกจากเขียนวิธีการสอนการอ่านออกเสียงแล้ว ทางวาเซดะมีคลิปมาให้ลองฝึกฟังวิธีการอ่านออกเสียงแต่ละตัวอักษรจากเซนเซ เจ้าของภาษาญี่ปุ่น ว่ามีความแตกต่างและวิธีการใช้ต่างกันอย่างไร

ฮิรางานะ Hiragana ひらがな

ฮิรางานะ เป็นตัวอักษรที่ใช้เขียนคำศัพท์ที่ไม่เขียนเป็นตัวคันจิ คำศัพท์ภาษาญี่ปุ่นแท้ รวมถึงคำที่แสดง หน้าที่ของไวยากรณ์ เช่น คำช่วย คำสันธาน และส่วนที่มีการผันรูปของคำกริยาและคุณศัพท์ ซึ่งจำนวนตัวอักษรฮิรางานะมี 46 ตัว 

วิธีการอ่านออกเสียง ฮิรางานะ

ฮิรางานะ Hiragana  

การออกออกเสียงของฮิรางานะประกอบไปด้วยเสียงพยัญชนะและสระตามตัวอย่างในตาราง ตัวอักษรภาษาอังกฤษที่เขียนไว้จะอยู่ในใต้คำฮิรางานะเพื่อแสดงในรูปแบบการอ่านออกเสียง เรียกว่า Romajiใช้เขียนบนป้ายชื่อสถานีรถไฟ เป๊นต้น 

ข้อควรระวัง 

  • การอ่านออกเสียง   “し”(shi)“ち”(chi) และ “つ”(tsu) เป็นข้อยกเว้น จะมีความยากในการฟังเวลาอ่านออกเสียง จึงจำเป็นต้องตั้งใจฟัง และฝึกการฟังให้ดี

  • เสียง “ふ” จะเป็นเสียง “fu” แต่การออกเสียงคือ “ฮุ”ไม่ใช่ “ฟุ”

  • “ら(ra)、り(ri)、る(ru)、れ(re)、ろ(ro)”จะใช้ตัว “r”แสดงเสียง แต่การอ่านออกเสียงจะแตกต่างกับ “r”ในภาษาอังกฤษ และ “ร” ในภาษาไทย

  • ปกติแล้ว “ を”จะอ่านออกเสียง “o” แต่ก็สามารถออกเสียงวา “wo” ได้เช่นกัน

  • โดยพื้นฐานแล้ว “ ん” จะออกเสียง“n”แต่สามารถออกเสียง“m”หรือ “ng”ได้ขึ้นอยู่กับเสียงที่ต่อท้าย “ ん”เป็น “m”ถ้าต่อด้วยเสียงที่มีแหล่งกำเนิดจากด้านในสุดของปากเช่น “k” “g”จะอ่านออกเสียง “ ん”เป็น “ng”

ยกตัวอย่างเช่น 

  • てんき        ten ki  

  • さんま       sam ma

  • かんぱい   kam pai

  • まんが      mang ga

     

คาตาคานะ Katakana カタカナ

คาตาคานะ เป็นตัวอักษรทที่ใช้เขียนทับศัพท์  คือ เขียนเสียงภาษาต่างประเทศ ชื่อชาวต่างชาติ  ชื่อสถานที่ในต่างประเทศ เป็นต้น เช่น คำว่า “konpyuta” (Computer) เป็นคำทับศัพท์จากภาษาอังกฤษที่ใช้อยู่ในภาษาญี่ปุ่น 

นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีการใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษเขียนในภาษาญี่ปุ่นด้วย เช่น “CD” “DVD” และ ”Eメール (e-mail)เป็นต้น  ซึ่งจำนวนตัวอักษรคาตาตานะ มี 46 ตัว

วิธีการอ่านออกเสียง คาตาคานะ

คาตาคานะ Katakana 

การอ่านคาตาคานะ จะใช้อ่านสำหรับภาษาต่างประเทศ ชื่อสถานที่ในต่างประเทศ และชื่อชาวต่างชาติ ยกตัวอย่างเช่น
タイ(tai) ไทย 、 ピザ (piza) พิซซ่า 、サヤーム(sayamu) สยาม เป็นต้น
นอกจากนี้ยังใช้สำหรับคำเลียนเสียง เช่น เสียงกรี๊ด “キやー” หรือเสียงสุนัขเห่า “ ワンワン” เป็นต้น  อีกทั้งยังมีการใช้ตัวอักษรคาตาคานะเขียนคำศัพท์แสลงและคำศัพท์ที่ต้องการเน้นย้ำเป็นพิเศษอีกด้วย

เสียงยาวของคาตาคานะ  

วิธีการเขียนเสียงยาวของคาตาคานะแตกต่างกับวิธีการเขียนเสียงยาวของฮิรางานะ โดยตัวอักษรคาตาคานะจะใช้เครื่องหมาย แสดงเสียงยาว ยกตัวอย่างเช่น 

  • カー     (ka)     Car รถ

  • ケーキ (keki)   Cake เค้ก 

  • コピー (kopi)   Copy ถ่ายเอกสาร 

ในกรณีที่เขียนในแนวตั้ง จะต้องเขียนเครื่องหมาย “” ไปในแนวตั้งด้วย

カ  ケ   コ
|     |      ピ

     キ     |

คันจิ Kanji 感じ

คันจิ เป็นตัวอักษรที่รับมาจากประเทศจีน ถ่ายทอดมาสู่ดินแดนญี่ปุ่นผ่านทางคาบสมุทรเกาหลีเมื่อ 1,500 ปีก่อน ในขณะนั้น ญี่ปุ่นยังไม่มีตัวอักษร จึงเริ่มใช้คันจิเพื่อเขียนและถ่ายทอดความหมายในภาษาญี่ปุ่น แต่ว่าการเขียนภาษาญี่ปุ่นด้วยคันจิอย่างเดียวเป็นเรื่องยาก จึงมีการประดิษฐ์ตัวอักษรฮิรางานะ และคาตาคานะ โดยดัดแปลงมาจากตัวอักษรคันจิ ในปัจจุบันการเขียนญี่ปุ่นมีการใช้ทั้งคันจิ ฮิรางานะ คาตาคานะ และอัลฟาเบต (ตัวอักษรภาษาอังกฤษ) ร่วมกัน ซึ่งจำนวนตัวคันจิ มี 2,136 ตัว

ตัวอย่าง  昨日の晩、父に Eメールを書きました
1.คันจิ  :  ใช้เขียนคำนาม รากศัพท์ของคุณศัพท์ คำกิริยา เป็นต้น
2.ฮิรางานะ :   ใช้เขียนส่วนประกอบที่เกี่ยวข้องกับไวยากรณ์ เช่น คำช่วย ส่วนที่มีการผันเสียงในคำกิริยา และคำคุณศัพท์ มีคำเชื่อมและคำวิเศษณ์บางคำที่เขียนด้วยคันจิ แต่ในปัจจุบันมีการเขียนด้วยฮิรากานะมากขึ้น 
3.คาตาคานะ :  ใช้เขียนคำต่างประเทศ และคำแสลง
4.อัลฟาเบต : ใช้ในการเขียนคำศัพท์สมัยใหม่จากภาษาต่างประเทศ เช่น [ CD]  [Eメール]

นอกจากนี้ทางวาเซดะได้มีภาพตัวอักษร เพื่อให้ทุกคนได้ลองฝึกการเขียนตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นได้ด้วยตัวเองกันนะครับ

วิธีการอ่านออกเสียงตัว คันจิ

คันจิ Kanji

คันจิที่ใช้ในจีนโดยพื้นฐานของแต่ละตัวอักษรมีวิธีการอ่านแบบเสียงเดียวเท่านั้น แต่คันจิใช้ในญี่ปุ่น แต่ละตัวอักษรจะมีวิธีอ่านอย่างน้อย 2 แบบ ได้แก่ องโยะมิ และคุงโยะมิ 

องโยะมิ (เสียงอ่านแบบจีน)

องโยะมิเป็นเสียงอ่านที่ได้รับมาจากจีน แม้จะเป็นเสียงอ่านแบบจีน แต่เสียงอ่านก็แตกต่างกันไปตามยุคสมัยและท้องถิ่น ขึ้นอยู่กับว่าได้รับถ่ายทอดอักษรคันจิตัวนั้นมาเมื่อใด จากแห่งใด เมื่อญี่ปุ่นได้รับการถ่ายทอดเสียงอ่านแบบใดมา ก็จะได้รับอ่านเสียงนั้นมาใช้ จึงมีคันจิบางตัวที่มีเสียงอ่านแบบองโยะมิ 2 เสียงขึ้นไป 

คุงโยะมิ (เสียงอ่านแบบญี่ปุ่น)

เนื่องจากการเขียนภาษาญี่ปุ่นด้วย องโยะมิเพียงอย่างเดียวเป็นเรื่องยาก จึงมีการประยุกต์เอาคำภาษาญี่ปุ่นแท้มามาใช้อ่านคันจิ เรียกว่าเสียง “คุงโยะมิ” เช่นคำว่า “คน” ในภาษาญี่ปุ่น คือ 「ひと」 ส่วนคันจิที่หมายถึง “คน” คือ 「人」 ซึ่งมีวิธีออ่านแบบองโยะมิว่า「にん」เหมือนกับตอนที่ได้รับถ่ายทอดมาจากจีน ญี่ปุ่นจึงกำหนดให้คันจิตัวนี้มีวิธีอ่านว่า 「ひと ด้วย 


ยกตัวอย่างคันจิที่มีเสียงอ่านหลายแบบ 

  • せい (sei)  学生 (がくせい) (gakusei)
  • しょう(sho)   殺生 (せっしょう) (sessho)
  • じょうび(joubi)   誕生日 (たんじょうび) (tanjoubi)
  • い (i)  生きる (いきる) (ikiru)
  • は(ha)   生える (はえる) (haeru)
  • う(u)   生まれる (うまれる)(umareru)
  • (o)   生い立ち (おいたち) (oitachi)
  • なま(nama)  生 (なま) (nama)
  • (ki)  生地 (きじ) (kiji)
  • きっ(kissu生粋 (きっすい)(kissui)

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่🔽

Click me!

🏫 #วาเซดะกรุงเทพ 

 02-670-3456 / 080-269-0678

⏩️Line : https://lin.ee/ABbZbJh

Click me!

🏫 #วาเซดะศรีราชา – ชลบุรี 038-338-999 / 083-605-2234⏩️Line : https://lin.ee/cGwOcmF

Click me!

🏫 #วาเซดะเชียงใหม่ 

 053-211-888 / 095-243-4248

⏩️Line : https://lin.ee/rSiGlc6